Forbes เผย 5 เทคโนโลยีที่จะมา Disrupt กลุ่มธุรกิจ Healthcare ภายในปี 2020 และโอกาสทางการตลาดที่น่าสนใจของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์

1.เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ระบบที่สามารถคิด และ ให้เหตุผล ได้เหมือนมนุษย์
อาทิ เช่น ซอฟต์แวร์ระบบ IBM Watson Health’s และหลังจากที่ IBM ซื้อ Truven Health Analytics มูลค่ากว่า $2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ปัจจุบัน IBM เป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านการวิเคราะห์สุขภาพและการจัดเก็บข้อมูล
การเติบโตของตลาด อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 42 % สามารถสร้างรายได้สูงถึง $6.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถึงปี 2021
2.การรักษาโรคมะเร็งด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันบำบัด (Cancer Immunotherapy หรือ ภูมิคุ้มกันบำบัดโรคมะเร็ง)
การเติบโตของตลาด อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 139 %
3.เทคโนโลยีการตรวจหาสารบ่งชี้ทางชีวภาพด้วยของเหลว (The liquid biopsy)
และเทคนิคเกี่ยวกับเมแทบอลิซึมของเนื้องอก circulating tumor DNA (ctDNA) และ irculating tumor cells (CTCs) และ Internet of DNA ฐานข้อมูลสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ ของผู้ป่วย ที่กำลังจะกลายมาเป็นมาตรฐานการตรวจวินิจฉัยและเก็บข้อมูลพื้นฐานโดยแพทย์ ผู้รักษา ข้อมูลดีเอ็นเอเหล่านี้จะสามารถรวมกันเป็นฐานข้อมูลเพื่อให้แพทย์ใช้เป็นกรณีศึกษา (case study)
โดยเฉพาะโรคที่มาจากความผิดปกติทางดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดการก้าวกระโดดทางการแพทย์ คาดว่าจะใช้แพร่หลายใน 1-2 ปีนี้
ความก้าวหน้านี้สามารถตรวจหาโรคมะเร็งได้ในระยะเริ่มต้น ด้วยวิธีการตรวจเลือด ที่ใช้หลักการ เซลล์มะเร็ง หลั่งดีเอ็นเอเข้าสู่กระแสเลือด ผู้นำเทคโนโลยีนี้ อาทิ เช่น บริษัท Illumina
รู้ยัง…มีประชากรทั่วโลกราว 8 ล้านคนต่อปี ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
4.เทคนิคตัดต่อพันธุกรรม CRISPR/Cas9
เทคโนโลยี CRISPR ทำให้นักวิทยาศาสตร์ ทำการเปลี่ยนแปลง ดีเอ็นเอในเซลล์ ที่ทำให้พวกเรา สามารถรักษาโรคทางพันธุกรรมได้ ส่วนของระบบ CRISPR คือโปรตีนที่เรียกว่า Cas9
พันธุวิศวกรรมแบบเดิมๆ ทำให้เกิดข้อโต้แย้งเป็นเวลานาน แต่เทคนิคใหม่ช่วยให้เรา “แก้ไข” รหัสพันธุกรรมของพืชนั้นๆ ได้โดยตรง เช่น ทำให้โภชนาการเพิ่มขึ้นหรือรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้ดีขึ้น เป็นต้น ซึ่งเป็นการค้นพบใหม่ช่วยให้การเกษตรดีขึ้นแต่ลดข้อถกเถียงลง โดยพันธุวิศวกรรมแบบเก่าจะพึ่งพิงแบคทีเรียชื่อ อะโกรแบคทีเรียม ทูเมฟาเชียนส์ (agrobacterium tumefaciens)
เพื่อนำส่งดีเอ็นเอที่ต้องการไปยังจีโนมเป้าหมาย อันเป็นเทคนิคที่ก่อให้เกิดความกังวลในคนทั่วไป (อ้างอิจ: TED)
5.เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติ 3D printing (โรงงานแบบสั่งพิมพ์อวัยวะเทียม 3 มิติ)
ความก้าวหน้าทางการแพทย์โดยใช้เทคโนโลยี 3D Printing เป็นความหวังแก่ผู้คนที่มีปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิต ไม่ว่าจะแบบเกิดมาไม่ครบสามสิบสอง หรือแบบที่อวัยวะของร่างกายสูญเสียสมรรถภาพไป ทั้งมาจากสาเหตุของการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่สามารถพึ่งพาทางการแพทย์จากเทคโนโลยี 3D Printing แม้กระทั่งเหล่าบรรดาสัตว์ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ เพื่อให้เข้ามาเติมเต็มชีวิตด้วยเช่นกัน
3D Printing เป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่เรียกว่า Advanced Additive Manufacturing หรือ การผลิตทดแทน ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ เซนเซอร์ การประมวลข้อมูล (Data processing)
จนถึง เทคนิคการผลิต ซึ่งรวมถึง Laser cutting และ Numerical control (CNC) machining.
ที่มา: Insights for Healthcare by J.P. Morgan
Source: Reenita Das, Forbes